How to นักข่าวไทย!
◆ หาข่าวจากเว็บไซต์คนไทย แต่ลง source ฝรั่ง
◆ หาข่าวจากเว็บไซต์คนไทย แต่ลง source ฝรั่ง
◆ หาข่าวจากเว็บบอร์ดไทย แต่ลง source ฝรั่ง
◆ หาภาพจากเว็บบอร์ดไทย แต่ลง source ฝรั่ง
◆ อยากเขียนข่าว แต่อ่านภาษาต่างประเทศไม่เข้าใจ ไปอ่านจากเว็บไซต์ไทย แต่ลง source ฝรั่งอย่างเดียว
◆ เขียนข่าวเอง แต่นำเสนอไม่เป็น เลยไปลอกการนำเสนอจากเว็บไซต์ไทย แต่ลง source ฝรั่งอย่างเดียว
◆ เขียนข่าวเอง แต่ไปเช็คความถูกต้องจากเว็บไซต์ไทย แต่ลง source ฝรั่งอย่างเดียว
◆ เขียนข่าวเอง พอไปเห็นเว็บไซต์ไทยเขียนละเอียดกว่า เลยขโมยรายละเอียดนั้นมาเสริม แต่ลง source ฝรั่งอย่างเดียว
◆ เขียนข่าวเอง แต่ไปเอาภาพจากเว็บไซต์ไทย แต่ลง source ฝรั่งอย่างเดียว
◆ ข่าวไม่ดัง ไม่เขียน แต่พอเห็นคนไทยเขียนถึง ตัวเองก็เลยเขียนถึงบ้าง แต่ลง source ฝรั่งอย่างเดียว
◆ อ่านข้ามข่าวสำคัญ แต่พอเห็นคนไทยเขียนถึง ตัวเองก็เลยกลับไปเช็คข่าวอีกครั้งและเขียนถึงบ้างแต่ลง source ฝรั่งอย่างเดียว
◆ หาข่าวมาจากเว็บไซต์ A แต่เว็บไซต์ A อ้างอิงจากเว็บไซต์ B แต่ลง source แค่เว็บไซต์ B อย่างเดียว
เป็นนักข่าวไทย ง่ายนิดเดียว!
Thursday, September 24, 2009
Just Talk
วันนี้มีข่าวการประกาศจัดตั้งชมรมผู้ผลิตข่าวออนไลน์ครับ ชมรมดังกล่าวเป็นการรวมตัวของ 10 เว็บไซต์ข่าวที่ต้องการประกาศเจตนารมณ์เพื่อเรียกร้องให้ทุกคนเคารพในงานสร้างสรรค์ในรูปแบบของงานเขียน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพื่อรณรงค์ให้ผู้ประกอบการเชิงพาณิชย์ link ไปยังหน้าเนื้อหาข่าว แทนที่จะเป็นการนำเนื้อหานั้นๆไปประดับเว็บไซต์ของตัวเองเพื่อหาผลประโยชน์ไม่ว่าจะเป็นทางตรงหรือทางอ้อม
จริงๆแล้วนี่ไม่ใช่เรื่องใหม่เลย (คนที่ติดตามงานเขียนของผมคงรู้ดี) แต่ผมคิดการรวมตัวเพื่อรณรงค์แบบนี้เป็นสิ่งที่ดี เป็นการกระตุ้นให้หลายคนเห็นความสำคัญ
แต่สิ่งหนึ่งที่เป็นปัญหาพอๆกัน (หรืออาจจะเป็นปัญหาใหญ่กว่า) ก็คือ เว็บไซต์ใหญ่ๆนั้นมีมาตรการควบคุมดูแลตัวเองอย่างไรเพื่อป้องกันไม่ให้ทีมงานของตัวเองขโมยเนื้อหามาจากเว็บไซต์ขนาดเล็กกว่า? เพราะปกติ ถ้าไม่โดนจับได้ก็ลอยตัว พอโดนจับได้ถึงจะขอโทษแต่ก็ไม่จ่ายเงินชดใช้
จริงๆแล้วนี่ไม่ใช่เรื่องใหม่เลย (คนที่ติดตามงานเขียนของผมคงรู้ดี) แต่ผมคิดการรวมตัวเพื่อรณรงค์แบบนี้เป็นสิ่งที่ดี เป็นการกระตุ้นให้หลายคนเห็นความสำคัญ
แต่สิ่งหนึ่งที่เป็นปัญหาพอๆกัน (หรืออาจจะเป็นปัญหาใหญ่กว่า) ก็คือ เว็บไซต์ใหญ่ๆนั้นมีมาตรการควบคุมดูแลตัวเองอย่างไรเพื่อป้องกันไม่ให้ทีมงานของตัวเองขโมยเนื้อหามาจากเว็บไซต์ขนาดเล็กกว่า? เพราะปกติ ถ้าไม่โดนจับได้ก็ลอยตัว พอโดนจับได้ถึงจะขอโทษแต่ก็ไม่จ่ายเงินชดใช้
Friday, July 24, 2009
Idea and Information Stealing
ยกมาจาก seiyuu.me ครับ
ในที่สุดก็มีบุคคลผู้หนึ่งที่ใช้ชื่อ The_insane จากเว็บบอร์ด Tirkx ทำการนำข้อมูลของการเล่น Dragon Quest IX ของ seiyuu ต่างๆไปยำและโพสต์โดยไม่ให้ credit (click เพื่อดูพฤติกรรม)
(ในช่วง 10.54 - 11.55 นาฬิกา (กลางวัน) ของวันที่ 21 กรกฎาคม มีคนไทยเข้ามาที่บล็อกนี้จาก keyword "maita blog kadowaki mai" ซึ่งสัมพันธ์กับโพสต์ของอาชญากรทางความคิดคนดังกล่าว)
ขอประกาศว่าบล็อกนี้จะทำการเปิดให้อ่านแต่สมาชิกในเร็วๆนี้ โดยจะรับแต่เฉพาะคนต่างประเทศ เพราะผมเบื่อความเหี้ยของคนไทยมาก
อ่านความเหี้ยของคนไทยได้ที่ SingleBed's bLOG #2
อุตส่าห์หนีมาเขียนบล็อกภาษาอังกฤษก็ยังเสือกตามมาอ่านอีก
อุตส่าห์เขียนไว้เป็นภาษาไทยแล้วข้างล่างบล็อกว่าอย่าลอกก็เสือกลอกอีก
สันดานระยำจริงๆคนประเทศนี้
ก่อนหน้านี้เคยจะเขียนไว้ที่หัวบล็อกตัวใหญ่ๆว่าไม่ต้อนรับคนไทย แต่คนอ่านดีๆก็มี ไม่อยากเหมารวม แต่ตอนนี้สุดทนแล้ว ทำไมมีคน link มาน้อยกว่าคนลอกวะ?
-------
Some of the readers here might wonder why recently this blog was closed randomly. The reason is because more people from Thailand started coming here more often, and that'll only lead to the problem that made me start this blog, the problem is the use of contents in my blog without giving credit.
My (Thai language) gaming news on a site were plagiarized. (and I stopped writing gaming news)
My first blog (Thai language SingleBed's bLOG) was plagiarized. (and I closed it)
My (Thai language) Akiba-kei blog got harvested from people who worked on similar site without giving credit (and I closed it)
My e-commerce website was plagiarized by a Thai guy. (with pictures stolen)
Even my casual posts (Thai language) on a forum got plagiarized. (then I stopped browsing Thai forums long tme ago, unless someone links to me)
And now, this blog just got contents stolen. (all blog posts about seiyuu playing Dragon Quest IX was edited and posted in a Thai webboard without giving credit)
Now I have no choice but making this blog "subscriber only" which is what I don't want to do. Blogger allows you to have just 100 subscribers and you won't get new reader making it private.
I was thinking about blocking IP from Thailand but it requires a paid web hosting. (because Blogger doesn't offer this feature.)
Thursday, July 9, 2009
GamePro's Unpaid Contributor Plagiarizes IGN
เมื่อคืนมีสมาชิกของ NeoGAF จับได้ว่าคนวิจารณ์เกมคนหนึ่งของ GamePro ได้ทำการ plagiarize (ขโมยความคิด/งานเขียน) บทวิจารณ์เกมชิ้นหนึ่งของ IGN
วันนี้ทางบรรณาธิการของ GamePro ได้ออกมาชี้แจงและยอมรับว่าคนวิจารณ์เกมดังกล่าวนั้นผิดจริง และถอดบุคคลดังกล่าวออกจากหน้าที่ไปแล้ว
ต้องชมทาง GamePro ที่วางตัวได้ดีครับ
อยากให้นักเขียนไทย หรือคนไทยผู้ที่ทำหน้าที่บรรณาธิการดูไว้ครับ เรื่อง plagiarism นี้ถือว่าเป็นเรื่องที่ร้ายแรงที่สุดสำหรับอาชีพนักเขียนเลย แต่ยังมีหลายๆคนไม่คิดว่าเป็นเรื่องใหญ่ หรือทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นซะงั้น
นิตยสารบางฉบับถึงแม้จะรู้ว่านักเขียนประจำนั้นไปขโมยงานเขียนคนอื่นเขามา อาจแค่ตักเตือน หรือพักงาน เพราะกลัวว่าจะไม่มีต้นฉบับ หรือสูญเสียผลประโยชน์ ทั้งๆที่ความผิดแบบนี้น่าจะถึงขั้นไล่ออก
เมื่อนานมาแล้ว ผมได้ยินว่ามีคน(ไทย)ลอกนิยายคนอื่นมาขาย ออกวางจำหน่ายตามร้านแล้วด้วย พอเป็นข่าว แทนที่สำนักพิมพ์จะแสดงความจริงใจด้วยการแบนนักเขียนดังกล่าว กลับแค่พักงาน แถมยังเก็บหนังสือคืนไม่หมดด้วย
กลายเป็นว่าเห็นทั้งสันดานนักเขียนและสำนักพิมพ์เลยทีเดียว...
วันนี้ทางบรรณาธิการของ GamePro ได้ออกมาชี้แจงและยอมรับว่าคนวิจารณ์เกมดังกล่าวนั้นผิดจริง และถอดบุคคลดังกล่าวออกจากหน้าที่ไปแล้ว
ต้องชมทาง GamePro ที่วางตัวได้ดีครับ
อยากให้นักเขียนไทย หรือคนไทยผู้ที่ทำหน้าที่บรรณาธิการดูไว้ครับ เรื่อง plagiarism นี้ถือว่าเป็นเรื่องที่ร้ายแรงที่สุดสำหรับอาชีพนักเขียนเลย แต่ยังมีหลายๆคนไม่คิดว่าเป็นเรื่องใหญ่ หรือทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นซะงั้น
นิตยสารบางฉบับถึงแม้จะรู้ว่านักเขียนประจำนั้นไปขโมยงานเขียนคนอื่นเขามา อาจแค่ตักเตือน หรือพักงาน เพราะกลัวว่าจะไม่มีต้นฉบับ หรือสูญเสียผลประโยชน์ ทั้งๆที่ความผิดแบบนี้น่าจะถึงขั้นไล่ออก
เมื่อนานมาแล้ว ผมได้ยินว่ามีคน(ไทย)ลอกนิยายคนอื่นมาขาย ออกวางจำหน่ายตามร้านแล้วด้วย พอเป็นข่าว แทนที่สำนักพิมพ์จะแสดงความจริงใจด้วยการแบนนักเขียนดังกล่าว กลับแค่พักงาน แถมยังเก็บหนังสือคืนไม่หมดด้วย
กลายเป็นว่าเห็นทั้งสันดานนักเขียนและสำนักพิมพ์เลยทีเดียว...
Thursday, May 21, 2009
Boring
เบื่อ...
◆ เบื่อพวกลอกเนื้อหาไปลงเว็บบอร์ด, บล็อก, หนังสือ, รายงาน (ไม่ให้ credit)
◆ เบื่อพวกนักข่าวที่คิดเรื่องเขียนไม่ออกแล้วมาหาข้อมูลที่เรา (ไม่ให้ credit) บางรายถึงกับแอบรับ Feed เลย
◆ เบื่อพวกที่มาขโมยภาพไป hotlink (ไม่ให้ credit) ทั้งๆที่บางภาพมันหาได้ที่อื่นทั่วไป แต่ไม่ลงทุน save เอง แต่งเอง ย่อขนาดเอง upload เอง (ทำให้เปลือง bandwidth ด้วย)
◆ เบื่อพวกที่ชอบคิดว่างานเขียนดีๆนั้นทำได้ง่ายๆ (แต่พอตัวเองทำจริงๆแล้วก็ทำไม่ได้)
◆ เบื่อพวกร้านค้าที่ไม่รู้ว่าจะหาอะไรมาขายดีแล้วมาหาข้อมูลที่เรา (แน่นอนว่าไม่ให้ credit)
◆ เบื่อพวกที่ขโมยสรรพคุณสินค้าที่เราไปรวบรวมและเรียบเรียงข้อมูลมาไปประกอบการขายสินค้าของตัวเอง (แน่นอนว่าไม่ให้ credit)
◆ เบื่อพวกที่ขายสินค้าไม่เป็นและมาลอกวิธีโฆษณา (แน่นอนว่าไม่ให้ credit)
◆ เบื่อพวกที่เห็นทุกอย่างบนอินเตอร์เน็ตเป็นของฟรี
◆ เบื่อพวกคนไทยที่พอทำเว็บไซต์เหมือนกันเมื่อไหร่ต้องมาลอกความคิดแล้วไม่ยอมให้ credit ไม่เหมือนในตะวันตกที่ทำแบบถ้อยทีถ้อยอาศัย ถ้าเขาเห็นเรื่องจากเว็บไซต์อื่นน่าสนใจก็เขียนใหม่ หรือ quote คำพูดและให้ credit เว็บไซต์นั้น
◆ เบื่อพวกคนไทยที่ลง source แต่ไม่ให้ credit คนหาข่าวหรือหา source นั้นมา (คงเสียหน้ามากสินะที่ตัวเองไม่ได้หามาจากแหล่งโดยตรง? หรือว่ากลัวคนรู้ว่าตัวเองไม่มีปัญญาหาข่าว คอยนั่งฉก link จากคนอื่นอย่างเดียว)
เบื่อครับ
และขอถือโอกาสนี้ประกาศละทิ้งบล็อกสาขา 2 นี้ และประกาศงดรับสมาชิกบล็อกหลักอย่างไม่มีกำหนดด้วยครับ
ตอนนี้ทำธุรกิจใหม่ ซึ่งก็ทำให้ยุ่งกว่าเดิม และรู้สึกว่าคงไม่สามารถจริงจังและทุ่มเทกับงานเขียนได้อีกแล้ว (ด้วยเหตุผลข้างบน)
◆ เบื่อพวกลอกเนื้อหาไปลงเว็บบอร์ด, บล็อก, หนังสือ, รายงาน (ไม่ให้ credit)
◆ เบื่อพวกนักข่าวที่คิดเรื่องเขียนไม่ออกแล้วมาหาข้อมูลที่เรา (ไม่ให้ credit) บางรายถึงกับแอบรับ Feed เลย
◆ เบื่อพวกที่มาขโมยภาพไป hotlink (ไม่ให้ credit) ทั้งๆที่บางภาพมันหาได้ที่อื่นทั่วไป แต่ไม่ลงทุน save เอง แต่งเอง ย่อขนาดเอง upload เอง (ทำให้เปลือง bandwidth ด้วย)
◆ เบื่อพวกที่ชอบคิดว่างานเขียนดีๆนั้นทำได้ง่ายๆ (แต่พอตัวเองทำจริงๆแล้วก็ทำไม่ได้)
◆ เบื่อพวกร้านค้าที่ไม่รู้ว่าจะหาอะไรมาขายดีแล้วมาหาข้อมูลที่เรา (แน่นอนว่าไม่ให้ credit)
◆ เบื่อพวกที่ขโมยสรรพคุณสินค้าที่เราไปรวบรวมและเรียบเรียงข้อมูลมาไปประกอบการขายสินค้าของตัวเอง (แน่นอนว่าไม่ให้ credit)
◆ เบื่อพวกที่ขายสินค้าไม่เป็นและมาลอกวิธีโฆษณา (แน่นอนว่าไม่ให้ credit)
◆ เบื่อพวกที่เห็นทุกอย่างบนอินเตอร์เน็ตเป็นของฟรี
◆ เบื่อพวกคนไทยที่พอทำเว็บไซต์เหมือนกันเมื่อไหร่ต้องมาลอกความคิดแล้วไม่ยอมให้ credit ไม่เหมือนในตะวันตกที่ทำแบบถ้อยทีถ้อยอาศัย ถ้าเขาเห็นเรื่องจากเว็บไซต์อื่นน่าสนใจก็เขียนใหม่ หรือ quote คำพูดและให้ credit เว็บไซต์นั้น
◆ เบื่อพวกคนไทยที่ลง source แต่ไม่ให้ credit คนหาข่าวหรือหา source นั้นมา (คงเสียหน้ามากสินะที่ตัวเองไม่ได้หามาจากแหล่งโดยตรง? หรือว่ากลัวคนรู้ว่าตัวเองไม่มีปัญญาหาข่าว คอยนั่งฉก link จากคนอื่นอย่างเดียว)
เบื่อครับ
และขอถือโอกาสนี้ประกาศละทิ้งบล็อกสาขา 2 นี้ และประกาศงดรับสมาชิกบล็อกหลักอย่างไม่มีกำหนดด้วยครับ
ตอนนี้ทำธุรกิจใหม่ ซึ่งก็ทำให้ยุ่งกว่าเดิม และรู้สึกว่าคงไม่สามารถจริงจังและทุ่มเทกับงานเขียนได้อีกแล้ว (ด้วยเหตุผลข้างบน)
Saturday, April 25, 2009
I was plagialized (again #5)
วันนี้ผมบังเอิญ search ไปเจอผู้ที่ลงประกาศขายหนังสือแบบเดียวกันกับ Akihabara Style โดยผู้นั้นได้ทำการลอกรายละเอียดผลิตภัณฑ์ไปดัดแปลงสำนวนและสลับตำแหน่ง (แต่เห็นได้ชัดว่ามีร่องรอยต้นฉบับเหลืออยู่ และใครที่เคยอ่านของผมคงรู้ว่า pattern มันเหมือนกันเลย) ไม่มีการอ้างอิงถึง Akihabara Style และในขณะนั้น ผมไม่ได้ขายสินค้าชิ้นนี้ออกไป ดังนั้นจึงไม่มีเหตุอันควรให้ลอกไปทั้งสิ้น
Update: นอกจากนี้ เมื่อเข้าไปดูบล็อกของคนผู้นั้น (modokisama.blogspot.com) ก็พบว่ามีหลายๆอย่างคล้ายกับ Akihabara Style และได้ทำการขโมยรูปที่ผมตัดต่อเองไป 2 รูป (สิ่งที่น่าตลกและน่าละอายก็คือ ภาพที่เขาเอามาจากเว็บไซต์ญี่ปุ่นนั้นเขาให้ credit ไว้ ภาพของเขาเองก็มีเขียนกำกับ แต่สำหรับภาพที่นำไปจาก Akihabara Style นั้น เขาไม่ได้ให้ credit (ภาพเหล่านั้นเอามาจากผู้ผลิตก็จริง แต่เป็นภาพที่ผมได้ทำการตัดต่อและแต่งภาพเอง แต่แทนที่เขาจะหาภาพมาเอง ดันขโมยมาจากผู้ที่เขาขายแข่ง)
แน่นอนว่าผมคงไม่ปิด Akihabara Style แต่คงจะเขียนรายละเอียดผลิตภัณฑ์ก็คงจะสั้นๆห้วนๆ หรืออาจจะเหลือแค่ภาพเท่านั้น
ช่วงหลังนี้ผมหยุดเขียน "ข่าวสารผลิตภัณฑ์" ใน Akihabara Style ไปแล้ว เพราะไม่อยากแกว่งเท้าหาเสี้ยนอีก เว็บไซต์หรือเว็บบอร์ดแนวนี้ของไทยก็ไม่ได้เข้าแล้ว บล็อก seiyuu.me ก็พยายามเขียนช้าๆสั้นๆแล้ว แต่มันก็ยังมีเรื่องแบบนี้ผ่านมาให้เห็นจนได้
Update: นอกจากนี้ เมื่อเข้าไปดูบล็อกของคนผู้นั้น (modokisama.blogspot.com) ก็พบว่ามีหลายๆอย่างคล้ายกับ Akihabara Style และได้ทำการขโมยรูปที่ผมตัดต่อเองไป 2 รูป (สิ่งที่น่าตลกและน่าละอายก็คือ ภาพที่เขาเอามาจากเว็บไซต์ญี่ปุ่นนั้นเขาให้ credit ไว้ ภาพของเขาเองก็มีเขียนกำกับ แต่สำหรับภาพที่นำไปจาก Akihabara Style นั้น เขาไม่ได้ให้ credit (ภาพเหล่านั้นเอามาจากผู้ผลิตก็จริง แต่เป็นภาพที่ผมได้ทำการตัดต่อและแต่งภาพเอง แต่แทนที่เขาจะหาภาพมาเอง ดันขโมยมาจากผู้ที่เขาขายแข่ง)
แน่นอนว่าผมคงไม่ปิด Akihabara Style แต่คงจะเขียนรายละเอียดผลิตภัณฑ์ก็คงจะสั้นๆห้วนๆ หรืออาจจะเหลือแค่ภาพเท่านั้น
ช่วงหลังนี้ผมหยุดเขียน "ข่าวสารผลิตภัณฑ์" ใน Akihabara Style ไปแล้ว เพราะไม่อยากแกว่งเท้าหาเสี้ยนอีก เว็บไซต์หรือเว็บบอร์ดแนวนี้ของไทยก็ไม่ได้เข้าแล้ว บล็อก seiyuu.me ก็พยายามเขียนช้าๆสั้นๆแล้ว แต่มันก็ยังมีเรื่องแบบนี้ผ่านมาให้เห็นจนได้